ทรัมป์สั่งปลด ลิซ่า คุก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ จุดชนวนสงครามกับเฟด

ทรัมป์สั่งปลด ลิซ่า คุก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ จุดชนวนสงครามกับเฟด - Imagen ilustrativa del artículo ทรัมป์สั่งปลด ลิซ่า คุก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ จุดชนวนสงครามกับเฟด

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งปลด ลิซ่า คุก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นการยกระดับความขัดแย้งกับธนาคารกลางอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทรัมป์กล่าวหาว่าเฟดไม่ยอมลดอัตราดอกเบี้ยลงเร็วพอ

การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 111 ปีของเฟด ที่ประธานาธิบดีสั่งปลดผู้ว่าการธนาคารกลาง การกระทำดังกล่าวคาดว่าจะนำไปสู่การโต้แย้งทางกฎหมาย เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญตั้งคำถามถึงอำนาจของประธานาธิบดีในการปลดผู้ว่าการเฟด "ด้วยเหตุผล" ซึ่งยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน

ทรัมป์อ้างว่าคุกให้การเท็จเกี่ยวกับข้อตกลงสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยกล่าวหาว่าเธอลงนามในเอกสารที่ระบุว่าทรัพย์สินในมิชิแกนจะเป็นที่อยู่อาศัยหลักของเธอเป็นเวลาหนึ่งปี จากนั้นสองสัปดาห์ต่อมา เธอลงนามในเอกสารอีกฉบับสำหรับทรัพย์สินในจอร์เจีย โดยระบุว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยหลักของเธอเป็นเวลาหนึ่งปีเช่นกัน

คุก ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการของเฟด และเป็นสตรีแอฟริกันอเมริกันคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้ ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการปลดดังกล่าว เช่นเดียวกับเฟดที่ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น

การปลดคุกอาจถูกท้าทายในชั้นศาล โดยผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าทำเนียบขาวจะต้องแสดงให้เห็นถึงเหตุผลที่เพียงพอในการปลดเธอออกจากตำแหน่ง

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

การปลด ลิซ่า คุก อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของเฟด และความเป็นอิสระทางการเมืองของธนาคารกลาง การกระทำดังกล่าวอาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดการเงิน และส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

สิ่งที่ต้องจับตา

  • การตอบสนองของเฟดต่อการปลดคุก
  • การดำเนินการทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น
  • ผลกระทบต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจ

แชร์บทความ