ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง 'แพทองธาร ชินวัตร' พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง 'แพทองธาร ชินวัตร' พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี - Imagen ilustrativa del artículo ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง 'แพทองธาร ชินวัตร' พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ศาลรัฐธรรมนูญของไทยมีคำสั่งให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สืบเนื่องจากกรณีโทรศัพท์สนทนากับอดีตผู้นำกัมพูชา ฮุน เซน ที่รั่วไหลออกมา โดยศาลเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดจริยธรรมและอาจส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

คำตัดสินนี้ส่งผลให้ นางสาวแพทองธาร ต้องพ้นจากตำแหน่งทันที และคณะรัฐมนตรีของเธอต้องสิ้นสุดลงด้วย สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าเธอละเมิดกฎจริยธรรมและบ่อนทำลายกองทัพไทยในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชากำลังสูงขึ้น

ก่อนหน้านี้ นางสาวแพทองธาร ได้ออกมาปกป้องการสนทนาดังกล่าวว่าเป็นเพียง "เทคนิคการเจรจา" แต่ศาลเห็นว่าการกระทำของเธอ "ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นและไว้วางใจ" หลังจากการตัดสิน เธอได้ยอมรับคำตัดสินของศาล แต่ยังคงยืนยันว่าเธอต้องการ "ช่วยชีวิต" ท่ามกลางความตึงเครียดตามแนวชายแดนที่เพิ่มสูงขึ้น

คำตัดสินนี้ถือเป็นความเสียหายครั้งใหญ่สำหรับตระกูลชินวัตร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเมืองไทยมานานกว่าสองทศวรรษ เธอเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ห้าของไทยที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง ซึ่งทั้งหมดมาจากรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากบิดาของเธอ คือ นายทักษิณ ชินวัตร สิ่งนี้ทำให้เกิดความเชื่ออย่างกว้างขวางในประเทศไทยว่าศาลมักจะตัดสินคดีความต่างๆ ที่เป็นภัยคุกคามต่อกองกำลังอนุรักษ์นิยม

ขณะนี้ สมาชิกรัฐสภากำลังเร่งลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยมีผู้สมัครที่มีสิทธิ์ห้าคน ซึ่งทั้งหมดมาจากรายชื่อที่คัดเลือกไว้ล่วงหน้า

ผลกระทบทางการเมือง

การพ้นจากตำแหน่งของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อาจนำไปสู่ความไม่แน่นอนทางการเมืองครั้งใหม่ในประเทศไทย นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าเหตุการณ์นี้อาจกระตุ้นให้เกิดการประท้วงและการต่อต้านจากผู้สนับสนุนตระกูลชินวัตร

อนาคตของพรรคเพื่อไทย

พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองหลักที่สนับสนุนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการรักษาอำนาจทางการเมือง การสูญเสียตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอาจส่งผลกระทบต่อความนิยมของพรรคและโอกาสในการชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไป

แชร์บทความ