เงินบาทอ่อนค่า! ปัจจัยอะไรที่ส่งผลกระทบและแนวโน้มในอนาคต

เงินบาทอ่อนค่า! ปัจจัยอะไรที่ส่งผลกระทบและแนวโน้มในอนาคต - Imagen ilustrativa del artículo เงินบาทอ่อนค่า! ปัจจัยอะไรที่ส่งผลกระทบและแนวโน้มในอนาคต

เงินบาทอ่อนค่าลง: สถานการณ์ปัจจุบันและปัจจัยที่ต้องจับตา

ค่าเงินบาทในวันนี้มีการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า ข้อมูลล่าสุดจากฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) ระบุว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ 31.88 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ 31.83 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

สถานการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างแคบของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ภายหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้เน้นย้ำถึงเหตุผลในการลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานเป็นสำคัญ

ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินบาท

นอกจากปัจจัยภายนอกประเทศแล้ว ข้อมูลภายในประเทศก็มีผลต่อค่าเงินบาทเช่นกัน โดยค่าเงินบาทปิดตลาดเย็นวันนี้ที่ระดับ 32.00 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากระดับเปิดตลาดช่วงเช้าที่ 31.90 บาทต่อดอลลาร์ นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพเปิดเผยว่า เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.88 - 32.01 บาทต่อดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงคือ ตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนสิงหาคม 2568 ที่ขยายตัว 5.8% ซึ่งเป็นการเติบโตที่ชะลอตัวลงหลังจากที่เติบโตด้วยตัวเลขสองหลักมาตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา สิ่งนี้ทำให้ตลาดเริ่มกังวลว่าภาษีของสหรัฐฯ เริ่มส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยแล้ว

แนวโน้มและสิ่งที่ต้องจับตา

นักบริหารเงินคาดการณ์ว่าในวันพรุ่งนี้ (25 กันยายน) เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.85-32.15 บาทต่อดอลลาร์ สิ่งที่ต้องจับตาคือท่าทีของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับการเก็งกำไรค่าเงินบาท และการดูแลไม่ให้ค่าเงินผันผวนเร็วและแรงเกินไป

สรุปได้ว่า ค่าเงินบาทในขณะนี้ได้รับผลกระทบจากทั้งปัจจัยภายนอก เช่น นโยบายการเงินของสหรัฐฯ และปัจจัยภายในประเทศ เช่น ตัวเลขการส่งออก การติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและการวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

แชร์บทความ