ดาวโจนส์ร่วง! ทรัมป์ประกาศภาษีใหม่ กระทบตลาดหุ้นทั่วโลก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการด้วยความผันผวนเมื่อวานนี้ (8 กรกฎาคม 2568) หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีใหม่ต่อหลายประเทศ รวมถึง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และชาติอื่นๆ ในเอเชียและแอฟริกา ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างเห็นได้ชัด
ดาวโจนส์ดิ่งเหว หลังทรัมป์ประกาศภาษี
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average) ปิดตลาดลดลง 422 จุด หรือ 0.94% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.79% และดัชนี Nasdaq Composite ซึ่งเน้นหุ้นเทคโนโลยี ลดลง 0.92% นับเป็นการปรับตัวลงที่แย่ที่สุดในรอบสามสัปดาห์ของดัชนีหลักทั้งสาม
สถานการณ์เลวร้ายลงในช่วงกลางวัน หลังจากทรัมป์ประกาศภาษี 25% สำหรับสินค้าจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม นอกจากนี้ ยังมีการประกาศภาษีในอัตรา 25% ถึง 40% สำหรับสินค้าจากประเทศอื่นๆ เช่น เมียนมาร์ มาเลเซีย คาซัคสถาน ลาว และแอฟริกาใต้
ทรัมป์ได้โพสต์จดหมายเกี่ยวกับภาษีเหล่านี้บน Truth Social โดยระบุว่าอัตราภาษี “อาจมีการปรับเปลี่ยนขึ้นหรือลง” ได้ในอนาคต
ผลกระทบต่อตลาดอื่นๆ
การประกาศดังกล่าวส่งผลกระทบต่อตลาดอื่นๆ ทั่วโลกเช่นกัน ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดในวันนี้ (9 กรกฎาคม 2568) ด้วยท่าทีที่ระมัดระวัง นักวิเคราะห์กำลังจับตาดูว่ามาตรการภาษีเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างไร
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังประกาศภาษี 50% สำหรับการนำเข้าทองแดง และขู่ว่าจะเก็บภาษีสูงถึง 200% สำหรับการนำเข้ายา ซึ่งส่งผลให้ราคาซื้อขายทองแดง (Copper futures) พุ่งสูงขึ้นกว่า 10% ในขณะที่หุ้นของบริษัทยาใหญ่ๆ เช่น Pfizer, Amgen และ AbbVie ปรับตัวลดลง
จับตาการเจรจาการค้า
ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีจะลงนามในคำสั่งพิเศษเพื่อเลื่อนกำหนดเส้นตายภาษีจากวันที่ 9 กรกฎาคม เป็นวันที่ 1 สิงหาคม เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจาการค้าระหว่างประเทศต่างๆ อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยืนยันว่า จะไม่มีการขยายเวลาออกไปอีก
นักลงทุนกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า การเจรจาการค้าจะนำไปสู่ข้อตกลงที่เป็นประโยชน์หรือไม่ หรือจะนำไปสู่สงครามการค้าที่รุนแรงยิ่งขึ้น