UN เรียกร้องสอบสวนเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

UN เรียกร้องสอบสวนเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา - Imagen ilustrativa del artículo UN เรียกร้องสอบสวนเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงตึงเครียด

สถานการณ์การปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชายังคงเป็นที่จับตามองของนานาชาติ หลังจากเกิดเหตุการณ์ปะทะอย่างรุนแรงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง กองทัพไทยได้ออกมาประณามการโจมตีเป้าหมายพลเรือนของกัมพูชา โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า กองทัพไทยมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่ารัฐบาลกัมพูชา โดยสมเด็จฮุน เซน อยู่เบื้องหลังการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ซึ่งรวมถึง ชุมชนเมือง โรงพยาบาล และโรงเรียน การกระทำดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

การปะทะเริ่มขึ้นเมื่อทหารกัมพูชายิงโจมตีฐานทหารไทยพร้อมกัน 6 จุด ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาควาย, ช่องบก, เขาพระวิหาร (ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ), ช่องอานม้า และช่องจอม การโจมตีดังกล่าวมีการใช้อาวุธหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีทหารไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บ

นอกจากนี้ มีรายงานว่าจรวด BM-21 ที่ยิงโดยทหารกัมพูชาตกใส่โรงพยาบาล โรงเรียน หมู่บ้าน ปั๊มน้ำมัน และร้านค้า ในจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และบุรีรัมย์ ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

นานาชาติเรียกร้องให้มีการเจรจา

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น องค์กรระหว่างประเทศและประชาคมโลกได้ออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติการปะทะ และหันมาเจรจาเพื่อหาทางออกอย่างสันติวิธี หลายฝ่ายเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ และการปกป้องพลเรือนผู้บริสุทธิ์

สหประชาชาติ (UN) ได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างอิสระและโปร่งใส เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ การสอบสวนควรครอบคลุมถึงการโจมตีเป้าหมายพลเรือน และการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

  • สหประชาชาติ: เรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างอิสระและโปร่งใส
  • นานาชาติ: จี้ให้ไทยและกัมพูชาเจรจาเพื่อหาทางออก
  • กองทัพไทย: ประณามการโจมตีเป้าหมายพลเรือน

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงเป็นที่น่ากังวล และจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียเพิ่มเติม และรักษาความสงบสุขในภูมิภาค

แชร์บทความ