กัมพูชาตื่นตระหนก! ไทยใช้อาวุธเคมีโจมตี? ข้อเท็จจริงจากผู้เชี่ยวชาญ
เกิดกระแสความตื่นตระหนกในกัมพูชาเมื่อทหารกัมพูชาจำนวนมากสวมหน้ากากกันควันหรือแก๊สพิษ แม้กระทั่งในชีวิตประจำวัน โดยอ้างว่าเป็นการป้องกันการโจมตีด้วยอาวุธเคมีจากประเทศไทย มีการโพสต์ภาพและข้อความกล่าวหาว่าไทยใช้อาวุธเคมีโจมตีกัมพูชา ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน
พลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล ยืนยัน: ไทยไม่มีอาวุธเคมี
พลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล ที่ปรึกษากรมวิทยาศาสตร์ทหารบก และผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีและชีวะ ได้ออกมาแถลงอย่างหนักแน่นเพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาดังกล่าว ยืนยันว่าประเทศไทยไม่ได้ครอบครองหรือใช้อาวุธเคมี และท้าทายให้กัมพูชาพิสูจน์ข้อกล่าวหา
พลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล อธิบายว่าประเทศไทยเป็นภาคีของอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention: CWC) ซึ่งเป็นสนธิสัญญาพหุภาคีที่ห้ามการพัฒนา ผลิต สะสม และใช้อาวุธเคมี และกำหนดให้ทำลายอาวุธเคมีที่ภาคีมี นอกจากนี้ ประเทศไทยยังปฏิบัติตามพิธีสารเจนีวาว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธเคมี ซึ่งชาติที่เป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติจะต้องปฏิบัติตาม
“การกล่าวหาของกัมพูชาที่ใช้ภาพเครื่องบินไอพ่นโปรยของเหลวสีแดง พิสูจน์ได้ว่าเป็นภาพที่นำมาจากต่างประเทศ เป็นภารกิจดับไฟป่าที่สหรัฐอเมริกา” พลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล กล่าว “การที่ทหารกัมพูชาใส่หน้ากากออกมาอ้างว่ายังกลัวอยู่ เป็นการรื้อฟื้นเรื่องเก่า หากไทยใช้อาวุธเคมีจริง กัมพูชาต้องร้องเรียนไปยังองค์การห้ามอาวุธเคมี (OPCW)”
ข้อเท็จจริงและหลักฐาน
- ประเทศไทยเป็นภาคีของอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี
- ภาพที่กัมพูชานำมากล่าวอ้างเป็นภาพการดับไฟป่าในสหรัฐอเมริกา
- หากมีการใช้อาวุธเคมีจริง กัมพูชาต้องร้องเรียนไปยัง OPCW
ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีมูลความจริงและอาจมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไทยและกัมพูชาควรแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจาและหลักฐานที่ชัดเจน แทนที่จะปล่อยให้ข่าวลือและความเข้าใจผิดบานปลาย